วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ร่ายยาวมหาเวสสันดรขาดกกัณฑ์มัทรี

ที่มาของเรื่อง

        เรื่องมหาเวสสันดรชาดกมีที่มาจากเหตุการณ์ครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพุทธบิดาและพระประยูรญาติที่กรุงกบิลพัสดุ์  บรรดาพระประยูรญาติไม่ปรารถนาจะทำความเคารพพระพุทธเจ้า  ด้วยทรงคิดว่าพระพุทธองค์ทรงมีพระชนมายุน้อยกว่า  พระพุทธองค์ทรงทราบความคิดของเหล่าพระประยูรญาติ  จังทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์  โดยเสด็จขึ้นสู่นภากาศ  แล้วปล่อยให้ฝุ่ละอองธุลีพระบาทตกลงสู่เศียรของพระญาติทั้งหลาย  พระประยูรญาติจึงได้ละทิฐิแล้วถวายบังคมพระพุทธเจ้า  ขณะนั้นได้เกิดฝนโบกขรพรรษ  พระภิกษุทั้งหลายเห็นเป็นอัศจรรย์จึงกราบทูลถามพระพุทธเจ้า  พระพุทธองค์ตรัสว่า  ฝนชนิดนี้เคนตกต้องพระประยูรญาติของพระองค์มาครั้งหนึ่งแล้วในอดีต  แล้วทรงแสดงธรรมเรื่องมหาเวสสันดรชาดกหรือเรื่องมหาชาติแก่พระภิกษุเหล่านั้น

          ร่ายยาวมหาเสสันดรชาดก  เป็นเรื่องหนึ่งในทศชาติชาดก  หรือที่เรียกว่า พระเจ้าสิบชาติชาดก  แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท  ดังนี้

           1.  นิบาตชาดก  เป็นชาดกที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระไตรปิฏกมีจำนวน  ๕๕๐ เรื่อง  ที่เรียกว่านิบาตชาดก เพราะจัดไว้เป็นหมวดหมู่ตามจำนวนคาถา  แบ่งเป็น ๒๒ นิบาต  มีตั้งแต่คาถาเดียว  จนถึง ๘๐ คาถา  เรียกชื่อตามจำนวนคาถา  เช่น ชาดกที่มีคาถาเดียว เรียกว่า เอกนิบาตชาดก  ชาดกที่มี ๒ คาถา เรียกว่า  ทุกนิบาตชาดก  ชาดกที่มีคาถามากเกิน ๘๐ คาถาขึ้นไป มีจำนวน ๑๐ ชาดก  เรียกว่า พระเจ้า ๑๐ ชาติ   ทศชาติชาดก  หรือ มหานิบาตชาดก


          2. ปัญญาสชาดก   คือ นิทานสุภาษิตหรือนิทานอิงธรรมที่ภิกษุชาวเชียงใหม่แต่งไว้เป็นภาษาบาลีประมาณปี  พ.ศ. ๒๐๐๐ – ๒๒๐๐  เป็นนิทานเก่าแก่ที่เล่าต่อกันมา  ถือเป็นชาดกนอกคัมภีร์พระพุทธศาสนา  มีจำนวน ๕๐ เรื่อง


เรื่องย่อ

           พระนางมัทรีฝันร้ายว่ามีบุรุษมาทำร้าย จึงขอให้พระเวสสันดรทำนายฝันให้ แต่พระนางก็ยังไม่สบายพระทัย ก่อนเข้าป่า พระนางฝากพระโอรสกับพระธิดากับพระเวสสันดรให้ช่วยดูแล  หลังจากนั้นพระนางมัทรีก็เสด็จเข้าป่าเพื่อหาผลไม้มาปรนนิบัติพระเวสสันดรและสองกุมาร  ขณะที่อยู่ในป่า พระนางพบว่าธรรมชาติผิดปกติไปจากที่เคยพบเห็น เช่นต้นไม้ที่เคยมีผลก็กลายเป็นต้นที่มีแต่ดอก  ต้นที่เคยมีกิ่งโน้มลงมาให้พอเก็บผลได้ง่าย ก็กลับกลายเป็นต้นตรงสูงเก็บผลไม่ถึง  ทั้งท้องฟ้าก็มืดมิด ขอบฟ้าเป็นสีเหลืองให้รู้สึกหวั่นหวาดเป็นอย่างยิ่ง  ไม้คานที่เคยหาบแสรกผลไม้ก็พลัดตกจากบ่า ไม้ตะขอที่ใช้เกี่ยวผลไม้พลัดหลุดจากมือ ยิ่งพาให้กังวลใจยิ่งขึ้นบรรดาเทพยดาทั้งหลายต่างพากันกังวลว่า  หากนางมัทรีกลับออกจากป่าเร็วและทราบเรื่องที่พระเวสสันดร ทรงบริจาคพระโอรสธิดาเป็นทาน  ก็จะต้องออกติดตามพระกุมารทั้งสองคืนจากชูชก  พระอินทร์จึงส่งเทพบริวาร  3  องค์ให้แปลงกายเป็นสัตว์ร้าย  3  ตัว  คือราชสีห์  เสือโคร่ง  และเสือเหลือง  ขวางทางไม่ให้เสด็จกลับอาศรมได้ตามเวลาปกติ เมื่อล่วงเวลาดึกแล้วจึงหลีกทางให้พระนางเสด็จกลับอาศรม   เมื่อพระนางเสด็จกลับถึงอาศรมไม่พบสองกุมารก็โศกเศร้าเสียพระทัย  เที่ยวตามหาและร้องไห้คร่ำครวญ  พระเวสสันดรทรงเห็นพระนางเศร้าโศก  จึงหาวิธีตัดความทุกข์โศกด้วยการแกล้งกล่าวหานางว่าคิดนอกใจคบหากับชายอื่น จึงกลับมาถึงอาศรมในเวลาดึก  เพราะทรงเกรงว่าถ้าบอกความจริงในขณะที่พระนางกำลังโศกเศร้าหนักและกำลังอ่อนล้า พระนางจะเป็นอันตรายได้  ในที่สุดพระนางมัทรีทรงคร่ำครวญหาลูกจนสิ้นสติไป  ครั้นเมื่อฟื้นขึ้น  พระเวสสันดรทรงเล่าความจริงว่า  พระองค์ได้ประทานกุมารทั้งสองแก่ชูชกไปแล้วด้วยเหตุผลที่จะทรงบำเพ็ญทานบารมี  พระนางมัทรีจึงทรงค่อยหายโศกเศร้าและทรงอนุโมทนาในการบำเพ็ญทานบารมีของพระเวสสันดรด้วย

ที่มา https://jirawanjane.wordpress.com/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87/,https://sites.google.com/site/kanipa031/neux-reuxng-yx

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น