วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

หน่วยการเรียนรู้ที่3บทละครพูดคำฉันท์เรื่องมัทนะพาธา

ที่มาของเรื่อง

      บทละครพูดคำฉันท์เรื่อง มัทนะพาธา 

เป็นบทละครที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว 

ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น ตามจินตนาการของพระองค์
 โดยทรงให้ความสำคัญเรื่องความถูกต้อง 
และความสมจริงในรายละเอียดของเรื่อง ทั้ง ชื่อเรื่อง ชื่อตัวเอก และรายละเอียด ต่าง ๆเช่น ชื่อเรื่อง มัทนา มาจากศัพท์ มทน แปลว่า ความลุ่มหลงหรือความรัก และชื่อนางเอกของเรื่อง
มัทนะพาธา มีความหมาย ว่า ความเจ็บปวดและความเดือนร้อนเพราะความรัก ซึ่งตรงกับแก่นของเรื่อง ที่ชีใ้ ห้เห็นโทษของความรัก
ระยะเวลาในการแต่ง
      พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงนำละครพูดมาสู่วงการวรรณกรรมไทยเป็นครั้ง แรก ทั้ง นี้เนื่องจากทรงสนพระทัยในบทละครของวิลเลียม เชคสเปียร์ จึงทรงพระราชนิพนธ์บทละครพูดไว้เป็นจำนวนมาก แต่เรื่องมัทนะพาธาหรือตำนานดอกกุหลาบนี ้ เป็นบทพระราชนิพนธ์ที่เป็นบทละครพูดคำฉันท์เพียงเรื่องเดียวโดยทรงเริ่มพระราชนิพนธ์เมื่อวันที่ ๒ กันยายน  ๒๔๖๖ ขณะทรงพระประชวร และประทับอยู่ ณ พระราชวังพญาไท และทรงพระราชนิพนธ์เสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๔๖๖ นับได้ว่าใช้เวลาเพียง ๑ เดือน ๑๗ วันเท่านัน้
ลักษณะการแต่ง
     เรื่องมัทนะพาธาใช้คำประพันธ์หลายชนิดแต่เน้นแต่งด้วยฉันท์ บางตอนใช้กาพย์ยานี กาพย์ฉบังหรือกาพย์สุรางคนางค์ และมีบทเจรจาร้อยแก้วในส่วนของตัวละครที่ไม่สำคัญ ทำให้มีลีลาภาษาที่หลากหลาย ตอนใดดำเนินเรื่องรวดเร็วก็ใช้ร้อยแก้ว ตอนใดต้องการจังหวะเสียงและ
ความคล้องจองก็ใช้กาพย์ และตอนใดที่เน้นอารมณ์มากก็มักใช้ฉันท์ 

เรื่องย่อ
ภาคสวรรค์ :     
    กล่าวถึงสุเทษณ์เทพบุตร  ซึ่งในอดีตกาลเป็นกษัตริย์ครองแคว้นปัญจาล มัทนาเป็นพระธิดากษัตริย์ของแคว้นสุราษฎร์  สุเทษณ์ได้ส่งทูตไปสู่ขอนาง  แต่ท้าวสุราษฎร์พระบิดาของนางไม่ยอมยกให้  สุเทษณ์จึงยกทัพไปรบทำลายบ้านเมืองของท้าวสุราษฎร์จนย่อยยับ  และจับท้าวสุราษฎร์มาเป็นเชลยและจะประหารชีวิต  แต่มัทนาขอไถ่ชีวิตพระบิดาไว้  โดยยินยอมเป็นบาทบริจาริกาของสุเทษณ์ ท้าวสุราษฎร์จึงรอดจากพระอาญา  จากนั้นมัทนาก็ปลงพระชนม์ตนเอง  และไปเกิดเป็นเทพธิดาบนสวรรค์นามว่า  มัทนา  ส่วนท้าวสุเทษณ์ก็ทำพลีกรรมจนสำเร็จ  เมื่อสิ้นพระชนม์ก็ไปบังเกิดบนสวรรค์เช่นกัน  ด้วยผลกรรมที่เคยได้นางมาเป็นคู่ทำให้มีโอกาสได้พบกันอีกบนสวรรค์  แต่นางมัทนาก็ยังไม่มีใจรักสุเทษณ์เทพบุตรเช่นเดิม
   
ณ  วิมานของสุเทษณ์ ได้มีคนธรรพ์เทพบุตร  เทพธิดาที่เป็นบริวารต่างมาบำเรอขับกล่อมถวาย  แต่ถึงกระนั้นสุเทษณ์เทพบุตรก็ไม่มีความสุข  เพราะรักนางมัทนา  แต่ไม่อาจสมหวังเพราะผลกรรมที่ทำไว้ในอดีต  จึงให้วิทยาธรชื่อมายาวินใช้เวทมนตร์คาถาไปสะกดให้นางมายังวิมานของสุเทษณ์เทพบุตร   ฝ่ายมัทนาเมื่อถูกเวทย์มนตร์สะกดมา  สุเทษณ์จะตรัสถามอย่างไรนางก็ทวนคำถามอย่างนั้นทุกครั้งไป  จนสุเทษณ์เทพพระบุตรขัดพระทัย  รู้สึกเหมือนตรัสกับหุ่นยนต์   จึงให้มายาวินคลายมนตร์สะกด  เมื่อนางรู้สึกตัวก็ตกใจกลัวที่ล่วงล้ำเข้าไปถึงวิมานของสุเทษณ์เทพบุตร  สุเทษณ์เทพบุตรถือโอกาสฝากรัก มัทนาแสดงความจริงใจว่านางไม่ได้รักสุเทษณ์เทพบุตรจึงไม่อาจรับรักได้ เมื่อได้ยินดังนั้นสุเทษณ์เทพบุตรรู้สึกกริ้วนางมัทนาเป็นที่สุด  จึงสาปให้มัทนาจุติจากสวรรค์ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบในป่าหิมาวันในโลกมนุษย์  และเปิดโอกาสให้นางกลายร่างเป็นมนุษย์ได้เมื่อถึงคืนวันเพ็ญเพียงหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเท่านั้นเมื่อใดที่นางมีรักเมื่อนั้นจึงจะพ้นคำสาปและกลายร่างเป็นมนุษย์ได้อย่างปกติ  หากเมื่อใดที่นางมีทุกข์เพราะความรักก็ให้นางอ้อนวอนต่อพระองค์จึงจะยกโทษทัณฑ์ให้  ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าสาเหตุของปมขัดแย้งในเรื่อง  คือ  สุเทษณ์รักนางมัทนาแต่นางไม่รักตอบ

ภาคพื้นดิน :

    พระฤๅษีได้ขุดเอาดอกกุหลาบจากป่าหิมาวันไปปลูกไว้กับอาศรม เมื่อคืนวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง นางจะปรากฏโฉมเป็นมนุษย์มาปรนนิบัติรับใช้พระฤๅษี    วันหนึ่งท้าวชัยเสนกษัตริย์แห่งนครหัสดิน  เสด็จประพาสป่ามาถึงอาศรมพระฤๅษี  ตรงกับคืนวันเพ็ญที่มัทนากลายร่างเป็นมนุษย์  และได้พบกับท้าวชัยเสนและเกิดความรักต่อกัน  พระฤๅษีจึงจัดพิธีอภิเษกให้   ชัยเสนได้พานางกลับนครหัสดิน  ท้าวชัยเสนหลงใหลรักใคร่นางมัทนามาก  ทำให้นางจัณฑีมเหสี  หึงหวง  และอิจฉาริษยา  จึงทำอุบายให้ท้าวชัยเสนเข้าใจผิดว่ามัทนาเป็นชู้กับนายทหารเอก  นางมัทนาจึงถูกสั่งประหารชีวิต  แต่เพชฌฆาตสงสารจึงปล่อยนางไป
    นางมัทนากลับไปยังอาศรมพระฤๅษีและวิงวอนให้สุเทษณ์เทพบุตรช่วย  สุเทษณ์เทพบุตรได้ขอความรักนางอีกครั้งหนึ่งแต่นางปฏิเสธ  สุเทษณ์เทพบุตรจึงสาปให้นางเป็นดอกกุหลาบตลอดไป


ที่มา
https://alilit.wordpress.com/category/06-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%AD/,https://sites.google.com/a/htp.ac.th/mathna-phatha/4-reuxng-yx,http://youtube.com/watch?v=g2-NxcQ0VBQ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น